ลักษณะการเรียนของ MOOC
MOOC ใช้หลักการนำเสนอแบบ
Anyone Anywhere “ใครก็ได้ อยู่ที่ไหนก็เรียนได้”
ซึ่งผลงานที่เคยมีการทำมาคือ
ประเทศออสเตรเลีย ได้เปิดโปรแกรม Open2Study เป็นโปรแกรมเรียนฟรีออนไลน์
ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมี 10 วิชา (หลักสูตร วิชาละ
4 สัปดาห์ ) 7 เดือนต่อมา
มีการเพิ่มเป็น 32 วิชาเรียน โดยผู้ลงทะเบียนเรียน 60% มาจากต่างประเทศ โดยในจำนวนนี้ 5
ชาติที่เรียนมากที่สุด ได้แก่ สหรัฐ อินเดีย สหราชอาณาจักร สเปน และ แคนาดา
ซึ่งคอร์สที่ได้รับความนิยมมาก ได้แก่ “Principles
of project management”, “Food, nutrition and your health”,“Writing for the
web”, “User experience for the web” and “Strategic management” ด้านอาจารย์ผู้สอนก็มีความหลากหลาย
เพราะมาจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวมทั้งสถาบันในลักษณะโพลีเทคนิกต่าง ๆ
โดยที่ผ่านมาก็ต้องยอมรับว่ามีอุปสรรค คือ มีเพียง 1 ใน 4 ที่เรียนโปรแกรม Open2Study
ที่จบหลักสูตรตามกำหนด ทางด้านผู้บริหาร ระบบ Open2Study มองในแง่ดีว่า เป็นเพราะโปรแกรมมีการเน้นคุณภาพที่เข้มข้น กว่ารูปแบบอื่น
ๆ และจากที่มีการเปิดวิชาใหม่ขึ้นแทบทุกเดือน ทำให้คาดว่าภายในสิ้นปี 2013
Open2Study จะมีวิชาเรียนเพิ่มขึ้นมากถึง 50 วิชา
แต่ถึงโปรแกรม MOOC จะทันสมัยเพียงใดแต่ก็มีทั้ง ข้อดี และ ข้อเสีย ดังนี้
ข้อดีของ MOOC
1. การเข้าถึง (accessibility)
ที่ง่ายและแทบจะไม่มีค่าใช้จ่าย
2. ปฏิสัมพันธ์ (interaction)
อยู่เสมอมีคำถามแทรกตลอดเวลา
3. เสรีภาพ (freedom)
ในการเรียน
4. Scalability รองรับคนได้มากกว่า
10,000 คน
5. Student Win: นักศึกษามีอิสรภาพทางการศึกษาคุณภาพสูง
6. Institution Win: เป็นการประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยหรืออาจารย์ที่มาสอน
ข้อเสียของ MOOC
1.หากไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็ไม่สามารถเข้าระบบได้
2.อาจไม่สะดวกกับผู้ที่ไม่มีอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี
เช่น โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ แทปเลต เป็นต้น
3.MOOC
เป็นโปรแกรมที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย
แหล่งที่มา: http://www.learn.in.th/attribute-moocs- massive-open-online-courses/ จากเว็บ:Thai OER/MOOC
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น